เคล็ดลับการเลือกซื้อร่มกันยูวีมีอะไรบ้าง?
1.ดูที่ฉลาก ให้ดูที่ดัชนีการป้องกันเป็นหลัก นั่นคือค่า UPF และ UVA โดยค่า UPF จะต้องมากกว่า 40 และอัตราการส่งผ่าน UVA น้อยกว่า 5% จึงจะเรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันรังสี UV ยิ่งค่า UPF สูงขึ้น ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ก็จะดีขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะมีเครื่องหมาย "ค่า UPF50+" ฟังก์ชั่นการป้องกันก็เพียงพอ
2.ดูสี ด้วยผ้าชนิดเดียวกัน ร่มสีเข้มจะป้องกันรังสี UV ได้ดีกว่า ความแตกต่างระหว่างร่มกันแดดกับร่มประเภทอื่นคือ ความสามารถในการเคลือบสารป้องกันรังสี UV เพื่อหยุดการทะลุผ่านของรังสี UV จากการทดสอบอัตราส่วนการทะลุผ่านของรังสี UV ของผ้าโพลีเอสเตอร์สีต่างๆ พบว่าผ้าสีดำมีอัตราการส่งผ่านรังสี UV 5% ผ้าสีน้ำเงินกรมท่า สีแดง สีเขียวเข้ม สีม่วง มีอัตราการส่งผ่านรังสี UV 5%-10% ผ้าสีเขียว สีแดงอ่อน สีเขียวอ่อน สีขาว มีอัตราการส่งผ่านรังสี UV 15%
3. ดูที่เนื้อผ้า ยิ่งร่มหนา ผ้าก็จะยิ่งแน่น ก็ยิ่งป้องกันรังสี UV ได้ดี เมื่อเปรียบเทียบกับผ้าฝ้าย ผ้าไหม ไนลอน และผ้าอื่นๆ โพลีเอสเตอร์จะป้องกันแสงแดดได้ดีกว่า หากต้องการทราบผลการป้องกันแสงแดดของร่ม คุณอาจต้องลองใช้ร่มตากแดดดู ยิ่งร่มมีเงามากเท่าไหร่ อัตราการส่งผ่านแสงของร่มก็จะยิ่งลดลงเท่านั้น

สรุปแล้วร่มกันแดดแบบไหนดีกว่ากัน? ร่มกันยูวีตามชื่อก็หมายถึงใช้บังแดดเพื่อป้องกันรังสี UV ทำร้ายผิวหนังของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อซื้อต้องแน่ใจว่าสามารถป้องกันแสงแดดได้หรือไม่ ทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าร่มกันยูวีทำจากวัสดุอะไร มีค่าดัชนีการป้องกันแสงแดดเท่าไร เป็นต้น เพื่อพิจารณาว่าร่มกันยูวีดีหรือไม่ เทคนิคการเลือกซื้อร่มกันยูวีมีอะไรบ้าง? ทักษะการเลือกซื้อร่มกันยูวีมีมากกว่านั้น ตราบใดที่คุณเชี่ยวชาญจุดที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยให้คุณซื้อร่มกันยูวีได้อย่างเหมาะสม