• แบนเนอร์หัว_01

การกระดูกร่มหมายถึงโครงกระดูกที่ใช้รองรับร่ม โดยกระดูกร่มในยุคก่อนส่วนใหญ่จะทำจากไม้ กระดูกร่มที่ทำจากไม้ไผ่ จากนั้นก็จะมีกระดูกเหล็ก กระดูกเหล็กกล้า กระดูกโลหะผสมอลูมิเนียม (เรียกอีกอย่างว่ากระดูกไฟเบอร์) กระดูกไฟฟ้า และกระดูกเรซิน โดยส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะเป็นกระดูกหดตัว ซึ่งมีคุณสมบัติในการพกพาที่เบาและสะดวก

2

กระดูกเหล็กมีความแข็งแรงและทนทานที่สุด ไม่แตกหักง่าย มีอายุการใช้งานยาวนาน กระดูกเหล็กมีความเหนียวและไม่แตกหักง่าย ทนลมได้ดี ขึ้นสนิมง่ายเมื่อเวลาผ่านไป กระดูกอลูมิเนียมอัลลอยด์มีน้ำหนักเบาและราคาถูก กระดูกเส้นใยเคมีมีน้ำหนักเบา ทนทาน ทนลมได้ดีกว่า กระดูกคาร์บอนไฟเบอร์มีน้ำหนักเบา ทนลมได้ดีกว่า และราคาถือว่าสูงที่สุดในบรรดาวัสดุทั้งหมด กระดูกไฟฟ้าและกระดูกเรซินมีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก
ข้อเสียคือพับง่ายและมีแรงต้านลมน้อย

3

มีกระดูกเยอะๆไว้ในร่มจะดีกว่าไหม?
จำนวนกระดูกไม่ใช่จำนวนคงที่ แต่จะถูกปรับตามความต้องการที่แตกต่างกัน และไม่มีคำกล่าวที่แน่นอนว่ามากหรือน้อยจะดีกว่า
สำหรับคุณภาพของร่มนั้นไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับจำนวนกระดูกเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำอีกด้วย

4

กระดูกร่มมีกี่ชิ้น ไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่าร่มดีหรือไม่ดี แต่ยิ่งมีกระดูกร่มมากเท่าไหร่ ร่มก็จะยิ่งสมบูรณ์มากขึ้นเท่านั้น กระดูกร่มก็จะยิ่งสวยงามมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งมีรากที่ค่อนข้างแน่น รากก็ยิ่งแน่นมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็ค่อนข้างหนักเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว โครงกระดูกเต็มตัวจะมี 6-8 ชิ้น ส่วนใหญ่จะสูงถึง 24 ชิ้น ส่วนใหญ่จะใช้แบบเสาตรงสองอันเต็ม

5

ร่มกันแดดโดยทั่วไปจะมีราก 6 ราก โดยส่วนใหญ่เราจะเห็นกระดูกเหล็กและเหล็กกล้า 8 กระดูก 8 กระดูก 16 กระดูกในร่ม 2 ร่ม และร่มกันแดด 2 ร่ม ที่ใช้มากกว่านั้น แต่
เพื่อลดต้นทุนในปัจจุบันจึงมีร่มใส 2 ชั้นแบบ 7 กระดูกออกมาหลายแบบ ร่ม 6 กระดูก 7 กระดูก ในร่มแบบร่มอัลตร้าไลท์ที่ใช้กันมากขึ้น วัสดุส่วนใหญ่เป็นกระดูกอลูมิเนียมอัลลอยด์ (กระดูกไฟเบอร์) กระดูกเรซิน

6

ท้ายที่สุด ราคาของเรซินกระดูกค่อนข้างสูง จึงมักถูกนำมาใช้ทำร่มคุณภาพสูง ร่มคุณภาพสูงมักให้ความสำคัญกับสไตล์และคำนึงถึงรูปทรงของร่มเมื่อออกแบบ


เวลาโพสต์: 29 มิ.ย. 2565